S.H.A.P.E

ทำความรู้จักับ S.H.A.P.E
5 สิ่งที่จะทำให้ค้นพบตัวเอง


จากหนังสือ ฉันอยู่ในโลกนี้เพื่ออะไร เขียนโดยคุณริค วอร์เรน

ช่วงนี้ยังไม่ได้ทำพอดแคสต์ออกมาเพิ่ม
ก็เลยเอาเนื้อหาจากหนังสือที่อ่านไปแล้วมาแชร์ให้ได้อ่านกันก่อนนะคะ 🙂


มีหลายครั้งที่เรานั่งจ้องอะไรบางอย่างตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร…ไม่ได้นับว่า เรากลายเป็นความจำเสื่อม … แต่หลายครั้งเราไม่รู้ว่าเกี่ยวกับตัวเราเลย เราเป็นใคร หรือทำอะไรได้ดี …หรือแม้กระทั่งคำถามโลกแตกอย่าง…ฉัน…เกิดมาเพื่ออะไร

หลายคนอาจจะรู้คำตอบและมีเป้าหมายอย่างชัดเจน

แต่บางคนไม่มี …

ก่อนหน้านี้ ในช่วงวัยหลังเรียนจบใหม่ๆ และกำลังทำงาน
มีความอยากรู้ อยากลองไปหมดทุกอย่าง ( คือ ตอนนี้ก็ยังเป็น )

มีหลากหลายความรู้สึกเข้ามา เมื่อเราอยากทำบางสิ่งบางอย่าง แต่…

  • ไม่รู้จะทำอะไร
  • ทำแล้วจะไปรอดไหม

เอาแค่ 2 คำถามนี้ก็หยุดชะงักให้เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เริ่มจากคำถามที่ถามว่า ทำแล้วจะไปรอดไหม …?
อืม ไม่มีใครรู้ว่า ทำแล้วจะไปรอดไหม จนกว่าจะได้ลองทำ
อันนี้ในกรณีที่เรารู้อยู่แล้วว่าเรา ชอบ รัก หรืออยากทำอะไร

ส่วนคำถามที่ว่า
ไม่รู้จะทำอะไร…
ไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำอะไร…

จริงๆ แล้ว สิ่งที่เราชอบทำ
มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายที่สุด…ใกล้ตัวที่สุด

แต่เรายังมองไม่เห็นเท่านั้นเอง


คำแนะนำของผู้เขียน บอกให้เราอ่านหนังสือ เล่มนี้เพียงวันละหนึ่งบทเท่านั้น
โดยใช้เวลา 42 วัน คือ 42 บท

ในระหว่างทางที่อ่าน เราค้นพบคำตอบมากมาย

และตื่นเต้น อยากที่จะบอกใครสักคน

เราทบทวนเกี่ยวกับ S.H.A.P.E ซ้ำๆ
และทำให้มองเห็นตัวเองชัดเจนขึ้น

เรายังคงมีสิ่งที่อยากทำมากมายเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้เราเรียนรู้ที่จะตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
และเลือกทำสิ่งที่ควรทำจริงๆ เท่านั้น


และในตอนนี้ เราอยากชวนให้ทุกคนลองนั่งลง
พร้อมกับกระดาษเปล่าและดินสอ ปากกา
เราจะชวนทุกคนค้นหา SHAPE ในตัวเอง
โดยอ้างอิงจากหนังสือ The Purpose Driven ( ชื่อเดิมคือ ฉันอยู่ในโลกนี้เพื่ออะไร ปัจจุบันใช้ชื่อภาษาไทยว่า ชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ ) เขียนโดยคุณ Rick Warren

แล้วเริ่มเขียนเกี่ยวกับตัวเรา ด้วยประเด็นดังต่อไปนี้


( ทุกคนสามารถนำภาพที่เราแนบมาด้วยไปใช้เขียน แต่ละข้อได้เลยนะคะ )

SPIRITUAL GIFT


  1. S : Spiritual gifts
    ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็คือของขวัญฝ่ายวิญญาณ
    แต่ถ้าให้สรุปแบบเข้าใจง่ายก็คือ สิ่งที่ติดตัวเรามา เป็นลักษณะของเรา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆ เกี่ยวกับตัวเรา แต่มันจะกลายเป็นสิ่งที่วิเศษขึ้นมา เมื่อเรามองมันด้วยมุมมองที่ว่า… สิ่งนี้คือของขวัญ

ลองหยุด แล้วค้นหา Spiritual gifts ที่มีในชีวิตของพวกเรากัน ลองค่อยๆ เขียนมันออกมาในหน้ากระดาษ

บางคนอาจจะมีหลายข้อ บางคนอาจจะมีไม่กี่ข้อ
แต่ขอให้รับรู้ว่า สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ประกอบร่างกลายเป็นพวกเรา
และไม่มีใครที่จะสามารถทำได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะเก่งกาจเพียงใดก็ตาม

เพราะฉะนั้น gifts ที่เราได้รับ
ก็เพื่อทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อคนอื่น
และเรายังต้องค้นหาองค์ประกอบ อีก 4 อย่างที่จะกล่าวต่อไปนี้


HEART


  1. H : Heart
    ฟังเสียงหัวใจ
    ‘อย่าใช้ชีวิตของคุณสูญเปล่าไปกับงานที่ไม่แสดงออกถึงหัวใจของคุณ’
    The Purpose Driven : Page 262

ใจในที่นี่ ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่า ไม่ได้หมายถึงอวัยวะ แต่หมายถึง ‘ความรู้สึก’ ที่ส่งผลให้เรารู้สึกถึงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ ความปรารถนา ความสนใจ ความใฝ่ฝัน ความรัก ใจเป็นตัวกำหนดความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้น

และความรู้สึกที่เกิดขึ้น ก็เป็นตัวบ่งบอกว่า อะไรที่พิเศษสำหรับเรา…

นอกจากความรู้สึกแล้ว ยังมี ‘ร่างกาย’ ที่ทำงานประสานกับความรู้สึก เราเกิดมาพร้อมกับ จังหวะการเต้นของหัวใจที่แตกต่างกัน ท่าทางการเดิน การพูด หรือแม้แต่ลายนิ้วมือ ลองคิดดูว่า โลกนี้มีคนนับพันล้าน…แต่ไม่มีใครที่เหมือนกันกับเราเลย ต่อให้เป็นฝาแฝดกันก็ตาม

เราจะรู้ถึงหัวใจของเราได้อย่างไร ?

จังหวะการเต้นของหัวใจที่แปลกไป จะบอกกับเราเอง …
ความกระตือรือล้นที่อยู่ภายใน เกินต้านทาน
สิ่งเหล่านั้นแหละ เป็นตัวบ่งบอกว่า เรามีใจสำหรับอะไร !

มาลองสังเกตตัวเองกันว่าเราใจเต้นไปกับอะไรบ้าง : )


ABILITIES


  1. A : Abilities
    ทักษะและความสามารถ

บางคนอาจจะกำลังคิดว่า ตัวเองไม่มีความสามารถอะไรเลย
แต่บางคนอาจจะเตรียมเขียนลงไปในหน้ากระดาษแล้ว…

สำหรับใครที่คิดออกแล้ว ขอให้ข้าม Paragaph นี้ไปได้เลย
แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้ ขอให้สละเวลาสั้นๆ ค่อยๆสังเกตตัวเองตามข้อความต่อไปนี้

คุณรู้หรือไม่ว่า

  • สมองของคนเรา สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 100 ล้านล้านข้อมูล
  • และรับมือกับการตัดสินได้ 15,000 เรื่องต่อวินาที
  • เมื่อระบบย่อยอาหารกำลังทำงาน จมูกของคุณสามารถดมกลิ่นได้ถึง 10,000 กลิ่น
  • ระบบสัมผัสของคุณสามารถรับรู้ที่มีความหนางเพียง 1/25,000 นิ้ว
  • ลิ้นคุณสามารถชิมรส และรู้ว่าในน้ำสองล้านส่วนนี้มยาควินนินผสมอยู่หนึ่งส่วน

( นี่เป็นเพียงตัวอย่างจากหนังสือเท่านั้น แต่เราอยากจะลองชวนทุกคนคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ใกล้ตัวมากขึ้นไปอีก )

  • สิ่งที่น่ามหัศจรรย์อย่างหนึ่งคือ กล้ามเนื้อของเรา สามารถทำงานร่วมกับสมองและจดจำบางอย่างได้ โดยที่ไม่ต้องคิด … หรือทำได้โดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่าง นักดนตรีที่จับคอร์ดได้โดยไม่ต้องมอง ที่พวกเขาทำได้ ก็เพราะเขาฝึกฝนจนชำนาญ และนิ้วมือทำงานโดยอัตโนมัติ …. นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าความสามารถของร่างกายที่ติดตัวพวกเรามาตั้งแต่เกิด เพียงแต่พวกเราต้องเปิดก๊อกความสามารถเหล่านั้นออกมา และสนับสนุนตัวเอง

และสิ่งเหล่านั้นก็พัฒนาออกมา จนกลายเป็นอาชีพ หรือการงาน ที่พวกเราทำกัน ตั้งแต่ ชาวสวน พ่อค้า พนักงานขับรถ พ่อครัว นักดนตรี นักเขียน ไปจนถึงนักบิน ยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง และหลายอาชีพก็เป็นอาชีพที่เราคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ

แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ อย่าเปรียบเทียบหรืออิจฉาในความสามารถของคนอื่น ให้เราสนใจสิ่งที่เรามีก่อน แล้วพัฒนาสิ่งที่ตัวเองมีต่อไป อย่าเสียเวลากับสิ่งที่เราไม่ได้เป็น หรือหัวใจเราไม่ได้ตอบสนองต่อสิ่งนั้น


PERSONA

LITIES


  1. P : Personality
    บุคลิกภาพ

ถ้าหากจะบอกว่า เอกลักษณ์ของมนุษย์แต่ละคนสามารถยืนยันได้โดยวิทยาศาสตร์ว่า พระเจ้าสร้างเราเสร็จแล้วก็ทุบแม่พิมพ์ทิ้ง มีคนแบบคุณเพียงคนเดียว คุณจะเชื่อไหม ?

โมเลกุนของดีเอ็นเอนั้นสามารถรวมกันได้ไม่จำกัดวิธีคือ ตั้งแต่ 10 ไปจนถึงยกกำลัง 2,400,000,000 ตัวเลขนี้คือ โอกาสของการที่เราจะพกับคนที่เหมือนกัน ทุกๆ อย่าง ต้องใช้กระดาษยาวถึง 37,000 ไมล์ ( 59,545.728 กิโลเมตร เทียบระยะทางก็ เท่ากับการเดินทางจากเมืองไทยไปทะเลเมดิเตอร์เรเนียน !! )

ยังมีข้อมูลอื่นๆอีกมากมายที่จะยืนยันว่า … มีพวกเรา ที่เป็นเราเพียงคนเดียว
เราแตกต่างกัน
และไม่มีใครดีกว่าใคร หรือบุคลิกภาพแบบไหนที่ ถูก หรือ ผิด !

เพียงแต่ เราต้องใช้บุคลิกภาพของเราในทางที่ถูกต้อง … และบุคลิกภาพของเราจะถูกพัฒนาขึ้นไปอีกเมื่อเราใช้สิ่งนั้นเพื่อ มอบบางสิ่งบางอย่างให้ผู้อื่น

เราจะพบกับความอิ่มเอมใจ เอ่อล้น พึงพอใจ สันติสุข และการได้งอกงาม

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ คุณสัมผัสได้ถึงความรู้เหล่านี้ … นั่นแปลว่า คุณกำลังได้ใช้ประโยชน์จากบุคลิกภาพและสิ่งต่างๆ ที่คุณมี ที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ คือ Spiritual gift / Heart / Abilities / และ Personality

และมั่นใจได้เลยว่าชีวิตของคุณจะเติบโต และเจริญงอกงาม


EXPERIENCE


สิ่งสุดท้าย

  1. E : Experience
    ประสบการณ์

ประสบการณ์ที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงเพียงประสบการณ์การทำงานหรือสิ่งที่เราทำมาตลอดทั้งชีวิต แต่กำลังหมายถึง ‘สิ่งที่ประสบ – พบเจอ ในแต่ละเหตุการณ์ ของชีวิต’

บางเรื่องอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดมาตลอด
อย่างเช่น ครอบครัว ความรัก ความผิดหวัง ความเจ็บปวด บาดแผล อุบัติเหตุ หรือแม้แต่ความทุกข์ยาก

เป็นเรื่องปกติ ที่เราอยากจะซุกซ่อน ด้านมืด หรือ มุมที่อ่อนแอ ของเราเอาไว้
แต่มีความจริงเรื่องหนึ่งที่เราเองก็ได้มีประสบการณ์กับการแบกรับและซุกซ่อนบาดแผลในใจเอาไว้คนเดียว

เมื่อยิ่งซุกซ่อน ก็ยิ่งทำให้แผลนั้นเน่าเฟะ อักเสบ ลุกลาม และเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
แต่เมื่อมาถึงจุดนึงที่เราเรียนรู้ว่า พระเจ้า ไม่ได้ปรารถนาให้ใครต้องเจ็บปวดโดยเปล่าประโยชน์ และพระองค์ปรารถนาให้มนุษย์อยู่ร่วมกันโดยเข้าใจกันให้มากขึ้น

และในวันที่เรายอมรับความเจ็บปวดนั้น
ยอมที่จะพูดกับคนที่เจอความเจ็บปวดเหมือนกันกับเรา
แล้วความเจ็บปวดนั้นก็ค่อยๆ บรรเทา

และเราก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว เหมือนที่เคยเป็นมา
เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรายิ่งอวดและทำเป็นเข้มแข็ง เมื่อนั้น ชีวิตภายในของเราก็จะยิ่งอ่อนแอลง


มีแค่เราที่เป็นเรา
เราถูกสร้างมาให้เป็นเรา มีความเฉพาะ เจาะจง
เราไม่อาจจะเป็นคนอื่นได้
และไม่มีใครจะมาเป็นเราได้

แต่สิ่งสำคัญ เมื่อเราค้นหา S H A P E ในตัวเราเจอแล้ว
แล้วเรายิ่งเก็บมันไว้กับตัวเอง ก็จะยิ่งทำให้ชีวิตเราหยุดชะงัก และไร้ความหวัง
ลองตั้งใจใช้มัน เพื่อมอบบางอย่างเพื่อคนอื่นดู
อาจจะเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เล็กมากๆ ก็ได้

เราเองก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง
ไม่มีต้นทุนชีวิตอะไรเลย นอกจากความลำบากและยากจน
แต่เรารู้สึกขอบคุณทุกสิ่งที่เราเจอมาในอดีต ที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้
หลายครั้งเราอยากจะบ่น ต่อว่า สบถ ตัดพ้อ ออกมา แต่มันจะได้ประโยชน์อะไร
ทำในสิ่งที่เราทำได้ และควรทำ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด

บางคนอาจจะเหมาะสมกับการเป็น นักขับเคลื่อน นักพูด นักปลุกเร้าสร้างแรงบันดาลใจ แต่บางคนอาจจะเหมาะกับการเป็น นักคิด นักให้กำลังใจ นักสนับสนุน ดูแล ไม่ว่าเราจะทำอะไร แต่เจตนาภายในจะบอกเราเองว่า

วันนี้เราได้ใช้ สิ่งที่เรามี เพื่อคนอื่นแล้วหรือยัง?

หรือวันนี้เราได้ยินเสียงข้างในตัวเองไหม … เราใจดีกับตัวเอง รักตัวเองมากแค่ไหน

Published by panpanmeme

minimal portrait embroidery & Sleep Blogger

Leave a comment

Design a site like this with WordPress.com
Get started