ว่าด้วยการนอนหลับ
[ Chapter 1 : การนอนหลับ ]
อ้างอิง จากหนังสือ
Why We Sleep : นอนเปลี่ยนชีวิตบทที่ 1 การนอน….
เขียนโดย : คุณ Matthew Walker
แปลโดย : คุณ ลลิตา ผลผลา
เรื่องโดย : Panpanmeme
ทำไมมนุษย์ต้องนอน ?
ง่วงก็นอน นั่นอาจจะเป็นคำตอบที่หลายคนตอบในใจ …
รวมทั้งตัวเราเองในตอนนี้ด้วย ! (~﹃~)~zZ
วันนี้ เราจะมาหาคำตอบด้วยกัน
ไม่ใช่คำตอบว่า ทำไมต้องนอน … เพราะนั่นจะเป็นคำตอบที่คุณตอบตัวเองเมื่ออ่านจบ ◜◡◝
แต่เราจะพาคุณเข้านอนอย่างมีคุณภาพด้วยกัน ผ่านซีรีย์ บทความและพอดคาสต์ ‘before bedtime — for deep sleep’ โดย pappanmeme เองงงง เย้ะ ! ˃ᴗ˂
โดยเราจะมาเริ่มกันด้วยหนังสือแห่งการนอนอย่าง Why We Sleep — นอนเปลี่ยนชีวิต เขียนโดยคุณ Matthew Walker ( แปลโดย คุณลลิตา ผลผลา )
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นสักนิดว่า เราเป็นคนที่มีปัญหาการนอนหลับมาสักระยะใหญ่ๆ จนตอนนี้ต้องพึ่งยาเพื่อให้หลับสนิท เพราะก่อนหน้านี้ ปัญหาจากการนอนไม่หลับส่งผลไปถึงหลายๆด้านของชีวิต ทั้งการงาน สุขภาพ และความสัมพันธ์
และจากการสังเกตคนรอบตัว หลายคนก็มีปัญหานี้ บางคนเรื้อรัง บางคนเป็นบางครั้ง หรือบางคนอาจจะนานๆเป็นที , ถ้าใครไม่เป็นโรคนอนไม่หลับ ก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วย จะกล่าวว่าคุณเป็นประชากร 1 ใน 3 ของโลกที่ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ และตัวเราเองก็ถือว่าคนที่หลับง่าย หลับสนิทนั้น ได้รับของขวัญล้ำค่าเลยทีเดียว
แต่ของขวัญก็มาถึงพวกเราประชากรอีก 2 ใน 3 ของโลกใบนี้ ที่อยู่ฝั่งผู้ประสบปัญหาการนอนด้วยเช่นกัน !!!
เพราะหลังจากการหาสาเหตุที่แท้จริงของการนอนไม่หลับหรือนอนไม่มีคุณภาพถูกเมินมาเนิ่นนานในอดีตของวงการวิทยาศาสตร์ แต่ไม่กี่ปีมานี้ ได้มีการตื่นตัวในการหาคำตอบและสาเหตุ รวมไปถึงวิธีการ ซึ่งเกิดจากความทุ่มเทของคุณ Matthew Walker ผู้ที่หลงใหลเรื่องนี้ขึ้นมา จากตอนแรกเขาจะทำวิจัยเรื่องนี้เพียง 2 ปี แต่ แต่ แต่ เขากลับใช้เวลาไปมากถึง 20 ปี !!! เพื่อทำวิจัย และออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ให้เราได้อ่ากัน ~
… ความตั้งใจแรกที่อยากทำเรื่องนี้ เพราะเราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหากับตัวเราและคนใกล้ตัว เราก็มานั่งคิดว่า ทำไมคนเราถึงนอนไม่หลับ , อะไรเป็นสาเหตุ , ทำยังไงถึงจะนอนหลับ ซึ่งแต่ละคนก็มีปัจจัยที่ต่างกัน แต่ก็อาจจะคล้ายกัน ที่พอจะมาจับประเด็นแล้วร่วมแก้ไปด้วยกันได้
บทความนี้เราถือว่าเป็นการทำ journal สำหรับตัวเอง เขียน เล่า ในประเด็นที่ตัวเราเองได้รับ นำไปใช้กับคนใกล้ตัว เพราะผู้คนใกล้ตัว คือผู้คนที่เราสัมพันธ์ด้วย และไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็มาขอแชร์ที่นี่ด้วยเลยแล้วกันนะคะ ˃ᴗ˂
ส่วนตัวของเราเอง เราสังเกตว่า ตัวเองเป็นคนขี้กังวลและชอบคิดอยู่ในหัวตลอดเวลา วนไปวนมา เหมือนความคิดไม่ได้จัดการ หรือบางครั้งความรู้สึกที่เราติดอยู่ในบางเรื่อง ไม่ได้รับการจัดการ … และเมื่อเราต้องหลับไปพร้อมกับมัน ก็ทำให้เช้าวันใหม่ที่จะมาเยือนเรานั้น เป็นเช้าที่ไม่มีความสดใสเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่เมืองไทย ออกจะแดดร้อนจ้า ซัมเมอร์จ๋า ซะขนาดนี้ !!
ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะดีกว่า ถ้าเราได้จัดการขยะความคิดก่อนเข้านอน ( ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปค้นดูสาเหตุของการนอนไม่หลับและจับตัวพวกมันมาจัดการ ! ) และถ้าเราได้เตรียมตัวเข้านอนโดยมีใครสักคนมาพูดอะไรให้ฟังไปเรื่อยๆ มีเพลงคลอ ๆ กล่อมเข้านอน เราคงจะรู้สึกถึงความสงบ ปลอดภัย แบบตอนที่ยังเป็นเด็กก็ได้นะ …
เราคิดว่า ถ้ามนุษย์เรามีสุขภาพการนอนที่ดี ก็คงมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากแน่ๆ หนังสือพูดว่า การนอนอาจจะเป็นเรื่องเสียเวลาในวัฒนธรรมแบบเก่า และมักมีคำพูดว่า ‘ค่อยไปนอนตอนอยู่ในโลง’ โดยที่หารู้ไม่ว่า การไม่นอน หรือ การนอนอย่างไม่มีประสิทธิภาพนั้นจะส่งผลอะไรต่อชีวิตประจำวันของเราบ้าง
และหนังสือเล่มนี้จะพาเราก้าวสู่วิถีใหม่แห่งการนอน ₍⁻ʚ⁻₎
เริ่มกันที่ ภาคที่ 1 : ว่าด้วยการนอนหลับ
บทที่ 1 : นอนหลับ…
…
…
…
…
…
…
…
…
ส่วน podcast ที่ตั้งใจจะทำ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาอ่าน หรือไม่อยากดูมือถือแล้วตอนก่อนจะเข้านอนเพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอที่รบกวนจะส่งผลให้ร่างกายเราตื่นตัวและหลับยาก ( ซึ่งก็รวมตัวเราเองที่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ) บางครั้ง เราต้องใช้เวลานานเพื่อข่มตาหลับโดยที่ไม่เล่นมือถือจนกว่าจะง่วง ปิดไฟนอนแล้ว แต่สมองก็ยังแล่นปรื้ดดดดด จนบางทีก็ต้องหยิบมือถือมาเล่นต่อ แล้วก็หลับคามือถือไปซะแบบนั้นบางครั้งยาก็ไม่ช่วย มิหนำซ้ำยังลุกมานั่งจนสว่างก็มี —
หลับไปแล้วค่าาาาาาาาาา (~﹃~)~zZฮาาา หยอกกกกก
อันทีจริงงแล้วในบทที่ก็ไม่มีอะไรมาก
แต่ก็สำคัญ … เพราะมันเป็นที่มาของคำว่า
Why
We
Sleep
เราเคยสงสัยกันมั้ยว่า … ทำไมมนุษย์จึงต้องนอน
หรือ ทำไมมนุษย์ต้องพยายามอดนอน เพื่อทำงานให้ได้มาก
ซึ่งมนุษย์เป็นสัตว์เพียงสปีชีส์เดียว ที่พยายาม อดนอน !
สิ่งเหล่านี้บ่งบอกอะไร ?
เราอาจจะไม่เคยสงสัยว่าทำไมถึงต้องนอน
เพราะการนอนเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ตั้งแต่เราเกิดมา
เราง่วง ก็นอน ( ยกเว้นว่าเราจะเมา…แต่เอาจริงๆ ตอนเมาก็ไม่ได้รับลึกนะ ถึงจะดูเหมือนว่า หลับสบายก็ตาม … บทหน้าๆ ก็จะมีพูดถึงประเด็นนี้ด้วยเหมือนกัน ) เพราะฉะนั้นเราจึงมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แล้วปล่อยให้มันผ่านไปวันแล้ว วันเล่า คืนแล้วคืนเล่า และใช้วิธีผิดๆ เพื่อได้นอนหลับ
จนกระทั่งเรามารู้ตัวอีกทีว่าการนอนส่งผลต่อชีวิตเราอย่างไรก็ต่อเมื่อ …
มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป
อย่างเช่น … คุณถูกจัดว่ามีภาวะ ก่อนเบาหวาน เมื่อตอนตรวจสุขภาพประจำปี
คุณป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
หัวใจอุดตันหรือเปราะ
หรือวันที่คุณรู้สึกมีภาวะซึมเศร้า หดหู่ ไปจนถึงต้องการฆ่าตัวตาย
ฟังดูไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไปแล้ว !
” หากจิตใจ ไม่สงบ ย่อมไม่อาจข่มตาหลับ “
ชาร์ลอตต์ บรอนเต ( Charlotte Brontë )
ซึ่งนั่นอาจจะเป็นที่มาลึกๆ ของมวลมนุษยชาติกว่า 2 ใน 3 ส่วนของโลก
ว่า อะไรที่ค่ำตาค่ำสมองพวกเขาและพวกเราอยู่ ทำให้ไม่อาจจะข่มตาหลับลงได้ …
ถึงแม้ว่า คนเราใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิต ไปกับการนอน คือราวๆ 8 – 10 ชั่วโมง และเราเหลือเวลาสำหรับการทำสิ่งต่างๆ อีก 14 – 16 ชั่วโมง … อาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เสียเวลาเมื่อเห็นจำนวนตัวเลขนั้น เมื่อคุณเห็นข้อมูลต่อไปนี้
ซึ่งเป็นข้อมูลแสดงค่าแรงขั้นต่ำ ใน 10 ประเทศทั่วโลก
ถ้าคุณมีเลือดนักเศรษฐศาสตร์อยู๋ในตัว คุณก็คงมองหากราฟที่แสดงค่าแรงที่มากที่สุด คือ ออสเตรเลีย ซึ่งได้ค่าแรงอยู่ที่ 445.17 / ชั่วโมง !! และคงไม่ลังเลที่จะเพ่งมองไปที่จุดต่ำสุด…นั่นคือ ไทย ซึ่งได้ค่าแรงอยู่ที่ 40.5 / ชั่วโมง !!!!
คุณคงนึกเสียดายเวลานอน …
หรืออาจจะรู้สึกว่า จะนอนสักหน่อยก็ไม่เป็นไร
หากคุณอยู่ประเทศที่ให้ค่าจ้างทำงานของคุณต่างกัน … และสนับสนุนให้คุณได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ถึงแม้ว่า ถ้าตอนนี้คุณอยู่เมืองไทย และถ้าหากอยากจะได้เงินจำนวน 445.17 บาทต่อชั่วโมง ก็คงต้องอดนอนถึง 10 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว !!
แต่ประเด็นของเราไม่ได้จะมาพูดเรื่องค่าแรงกัน
แต่เราจะมาพูดเรื่อง การนอนที่มากขึ้น หรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอนแล้วได้อะไร ?
เมื่อเราหลับตานอน สิ่งที่เราจะได้รับจากการนอนหลับก็คือ
- โอกาสในการเพิ่มออกซิเจนในลูกตาของคุณ ที่จ้องคอมพิวเตอร์และมือถือมาตลอดทั้งวัน
- โอกาสที่จะเติมเต็มความปรารถที่สะกดกลั้นเอาไว้ … ซึ่งเรียกว่า ภาวะจิตไม่รู้สำนึก
- โอกาสที่จะซ่อมแซมร่างกาย สมอง และ จิตใจที่เหนื่อยล้า
- การนอนหลับส่งผลที่ดีต่อสุขภาพจิต
( ข้อมูลคร่าวๆ จากหนังสือกล่าวว่า ประเทศที่อดหลับอดนอนอย่าง อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ เป็นประเทศที่มีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันของการเกิดโรคทางกายภาพและความผิดปกติทางจิต ) - สิ่งนี้น่าสนใจมากคือ การนอนหลับที่ดี จะช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายทางสังคมและทางจิตใจในวันต่อไปได้อย่างใจเย็น
- การได้ฝัน กระบวนการการฝันเป็นการช่วยปลอบประโลมและบรรเทาความทรงจำอันเจ็บปวด และปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งในบทถัดๆไปจะมีการลงรายละเอียดเกี่ยวกับความฝันด้วย
- อีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับสถานการณ์โลกของเราในตอนนี้คือ
การนอนหลับ่ จะช่วยต่อต้านมะเร็ง หยุดยั้งการติดเชื้อ และป้องกันร่างกายเราจากการเจ็บป่วยทั้งหลาย … ลองสังเกตตัวเองดูว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ เราจะป่วยง่าย - อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย การเผาผลาญ การไหลเวียน การเติมจุลินทรีย์ที่เติยโตอยู่ในลำไส้ และฮอร์โมนต่างๆ
ยังมีสิ่งที่เราจะได้รับจากการนอนอีกมากมาย ซึ่งเราจะได้พบเจอและเก็บเกี่ยวในระหว่างการเดินทางไปพร้อมๆ กับการอ่านหนังสือเล่มนี้
แม้ว่าการอดนอน แล้วเอาเวลาไปเพิ่มให้กับช่วงเวลา 2 ใน 3 ของชีวิตที่เราเหลืออยู่ ก็ไม่อาจจะยืนยันว่า เราจะมีชีวิตอยู่รอดเพื่อทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จได้ … เพราะฉะนั้น เป้าหมาย หรือ ฝั่งฝัน หรือ ความสำเร็จ จะสำคัญอะไรถ้ามันไม่มี ‘ คุณ ‘ ?
หรือ ณ ตอนนี้ คุณกำลังเครียด กังวล กับชีวิต ว่า พรุ่งนี้จะเป็นยังไงถ้าหากไม่มีเงิน คุณต้องทำงานให้หนักขึ้น มากขึ้น … แต่อย่าลืมว่า ถ้าหากร่างกายอ่อนแอ หรือล้มไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
เขียนมาถึงตรงนี้ ก็วกเข้ามาประเด็นนี้จนได้
ไม่อยากขออะไรค่ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัย แข็งแรง มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีกันนะคะ
— Have A Good Night ˓✿˘˘✿˒